รุ่นเก่า VS รุ่นใหม่

Nissan GT-R ปะทะ Porsche 911

    สำหรับ “ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส” ตอนนี้ต้องถือว่าเป็นตัวท็อปสุดของ 911 โมเดลเชนจ์ รหัสตัวถัง 991 ซึ่งเอเอเอส เริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าไปบ้างแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

   ตัวรถถ้าดูจากรูปหรือมองผ่านๆ อาจจะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงจากโฉมเดิมเท่าใดนัก แต่จริงๆแล้ว 991 ปรับทั้ง ฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ ใหม่ ให้ต่างจาก 997 ไปเยอะพอสมควร โดยพัฒนาเรื่องสมรรถนะการขับขี่และการประหยัดพลังงานพร้อมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป ซึ่งปอร์เช่แจ้งว่า ชิ้นส่วนของรถกว่า 90% ได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมดด้วยรูปลักษณ์สปอร์ตคูเป้ที่ดูใหญ่สง่างาม สัดส่วนต่างๆยังดูลู่ลมลงตัว พร้อมแต้มแต่งความโดดเด่นด้วยไฟหน้าไบซีนอน ใช้หลอด LED กับโคมไฟหลัง กระจกมีความโค้งนูนมากขึ้น และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วเต็มตาเต็มซุ้ม ขณะที่ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานCd ต่ำเพียง0.29 มิติด้านหน้ากว้างขึ้น52 มิลลิเมตร(ในรุ่น911 คาร์เรร่า เอส) ยาวกว่าเดิม56 มิลลิเมตร ขณะที่ระยะฐานล้อขยายเพิ่ม100 มิลลิเมตร แต่โอเวอร์แฮงค์หน้าสั้นลง 32 มิลลิเมตร และหลังสั้นลง 12 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ภายในดูทันสมัยให้อารมณ์หรูหราแบบผิดหูผิดตา ตำแหน่งของคันเกียร์ปรับเปลี่ยนให้อยู่สูงและใกล้กับพวงมาลัยมากขึ้น ปุ่มควบคุมต่างๆจัดวางให้ใช้งานง่าย โดยฝังรวมก้อนอยู่บริเวณคอนโซลกลาง พร้อมจอแสดงผลทัชสกรีนขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 7 นิ้ว

    ค่ายรถสปอร์ตจากเยอรมนีอย่างปอร์เช่ (Porsche) ถือว่าเป็นค่ายรถที่ได้รับความนิยมมากมายทั้งบนท้องถนนและโลกไซเบอร์ โดยเมื่อไม่นานมานี้ แฟนเพจของปอร์เช่ ก็มียอดกดไลค์ทะลุ 5 ล้านไลค์ไปเรียบร้อยแล้ว ผู้ผลิตรถสปอร์ตรายนี้จึงได้ผลิตรถรุ่นพิเศษเพื่อฉลองในโอกาสนี้ซะเลย

    โดยปอร์เช่ได้นำรถสปอร์ตยอดนิยมอย่าง ปอร์เช่ 911 คาร์เรรา 4เอส (Porsche 911 Carrera 4S) มาตกแต่งด้วยสีน้ำเงินโทนเดียวกับหน้าเพจเฟซบุ๊กจากทีมงานที่ดีที่สุดของบริษัท สติ๊กเกอร์ข้อความข้างลำตัวรถที่เขียนว่า 5M Porsche Fan แสดงโอกาสพิเศษครั้งนี้ ล้ออัลลอยสีขาวขนาด 20 นิ้ว และนอกจากนี้ ภายในรถยังมีข้อความว่า Personality built by 5 Million Porsche Fan ตอกย้ำความพิเศษสำหรับรถคันนี้เป็นอย่างดี

    แต่รถรุ่นฉลองครบรอบ 5 ล้านไลค์คันนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อจำหน่าย แต่เพื่อให้บรรดาแฟนเพจได้ร่วมสนุกเพื่อทดลองขับกันฟรี ๆ ในสนามแข่งซิลเวอร์สโตนที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งกติกาเพียงแค่คุณมีเพื่อนที่กดไลค์แฟนเพจของปอร์เช่มากที่สุด ก็จะได้โอกาสควบเจ้าสปอร์ตรุ่นพิเศษคันนี้ทันที ซึ่งหากใครสนใจล่ะก็ลองดูรายละเอียดตามนี้ได้เลยครับ

    สำหรับปอร์เช่ 911 คาร์เรรา 4 เอส จัดเป็นรถสมรรถนะสูงคันหนึ่งในตระกูล 911 โดยพกพาเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงนอนขนาด 3,800 ซีซี ให้กำลัง 400 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ PDK 7 สปีด ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 296 กม./ชม. และมีสนนราคาเริ่มต้น 105,630 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.31 ล้านบาทในสหรัฐฯ)

นำภาพรุ่นเก่าๆมาเสนอ

วิธีการอ่านข้อมูลที่แก้มยางรถยนต์

     ที่แก้มของยางรถยนต์จะบอกขนาดของยาง, ผู้ผลิต, รุ่น, อัตราสูงสุดของการเติมลม, ความสามารถในการรับน้ำหนัก, ความเร็วสูงสุดที่สามารถรับ(วิ่ง)ได้, วันที่ผลิต(สัปดาห์/ ปี ค.ศ.), และข้อความเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยต่างๆ

     ตัวอย่างเช่น P185/75 R14 82S DOT 0500

• P หมายถึง ถูกออกแบบให้ใช้กับรถยนต์นั่ง (passenger car)
• 185 หมายถึง หน้ากว้างของยาง (section width) ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตร
• 75 หมายถึง ความกว้างของแก้มยาง มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบสัดส่วนกับหน้ากว้างของยาง
• R หมายถึง เป็นยางเรเดียล ซึ่งยางเกือบทั้งหมดเป็นยางเรเดียลอยู่แล้ว ในบางโอกาสอาจจะเห็นอักษรตัวอื่น ซึ่งมีอยู่น้อยมาก เช่น D หรือ B ซึ่งแสดงถึงว่าเป็นยางแบบ bias ply tire (ห้ามใช้ยางแบบเรเดียล และ bias ply tire) ผสมกัน
• 14 หมายถึง เส้นผ่าศูนย์กลางของกะทะล้อ มีหน่วยวัดเป็นนิ้ว
• 82 หมายถึง ดรรชนีน้ำหนักบรรทุก (load index) ซึ่งกำหนด โดยผู้ผลิตยาง (Rubber ManufacturersAssociation)
• S หมายถึง ความสามารถในการทำความเร็วสูงสุด (Tire’s maximum speed rating)
• Q ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 160 กม./ชม. (99 mph)
• S ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 180 กม./ชม. (112 mph)
• T ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 190 กม./ชม. (118 mph)
• H ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 200 กม./ชม. (124 mph)
• V ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 240 กม./ชม. (149 mph)
• Z ความเร็วสูงสุดมากกว่า 240 กม./ชม. (149 mph)
• (ข้อ ควรระวัง อย่าเลือกใช้ยางที่ความสามารถในการทำความเร็วต่ำกว่าที่รถรุ่นนั้นๆกำหนด และอย่าใช้ยางที่ความสามารถในการทำความเร็วต่างกันใช้ร่วมในรถคันเดียวกัน)
• 0500 หมายถึง วันที่ผลิต
• ตัวเลขหลังตัวอักษร DOT เป็นเลข 3-4 หลัก จะบอกถึงวันที่ผลิต
• ตัวเลข 2 ตัวแรก 05 บอกถึงสัปดาห์ที่ทำการผลิตในที่นี้คือ สัปดาห์ที่ 5 ของปี
• ตัวเลข 2 ตัวหลัง 00 บอกถึงปีที่ผลิต ในที่นี้คือปี ค.ศ. 2000

ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน

• ไม่ควรออกรถด้วยความเร็ว แต่รถควรออกตัวด้วยความนิ่มนวล เพราะจะช่วยประหยัดน้ำมัน และลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ 
• ควรใช้เกียร์สูงเมื่อรถวิ่งได้ 2500 รอบขึ้นไป เพราะการลากเกียร์ทำให้ชุดเกียร์ทำงานหนัก ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง 
• เปรียบเทียบ-ระยะทาง-เวลาและการใช้น้ำมันแล้ว สำหรับเครื่อง 1.5 ลิตร แต่ไม่ถึง 2.0 ลิตรความเร็วคงที่ที่ทำให้ประหยัดน้ำมันคือ 90 กม./ชม. รักษาสเถียรภาพความเร็วที่ใช้น้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง 
• เปรียบเทียบ-ระยะทาง-เวลาและการใช้น้ำมันแล้ว สำหรับเครื่อง 2.0 ลิตรขึ้นไปความเร็วคงที่ที่ทำให้ประหยัดคือ 110 กม./ชม. รักษาสเถียรภาพความเร็วที่ใช้น้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง 
• หากขับรถติดต่อกันมากกว่า 4 ชม. ครวพักหยุดรถสัก 15 นาที เพื่อให้ความร้อนของรถลดลง จะช่วยให้น้ำมันในระบบคลายความร้อนกลับมามีคุณสมบัติที่ดีอีกครั้ง 
• เช็คลมยางให้สม่ำเสมอทุกๆ 2 อาทิตย์และเมื่อจะออกเดินทางไปต่างจังหวัด หากลมยางอ่อนจะส่งผลให้รถวิ่งได้ช้า ขอบยางสึกเร็วกว่าปกติ แต่ก็ไม่ควรเติมจนแข็งเกินไปเพราะจะส่งลผให้การเข้าโค้งไม่เกาะถนน 
• ไม่ควรบรรทุกของมากเกินไปโดยเฉพาะของที่ไม่จำเป็น เพราะหากน้ำหนักรถมีมาก ก็จะส่งผลให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้น 
• เกียร์ถอยหลังเป็นอะไรที่กินน้ำมันมากไม่ควรเร่งเครื่องโดยไม่จำเป็น ดั้งนั้นการถอยรถควรค่อยๆถอย เพราะเกียร์ถอยใช้อัตราทดและแรงฉุดมากกว่าทุกๆเกียร์ 
• หากเป็นไปได้ก่อนถึงจุดหมายปลายทางสัก 500 เมตร การปิดแอร์จะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องแล้ว ยังเป็นการช่วยเป่าลมไล่ความชื้นในตู้แอร์และไล่เชื้อราที่อยู่ในนั้นด้วย

Porsche 911 Carrera 4S รถสปอร์ตหรูเปิดตัวที่ไทยแล้ว

     ในที่สุดก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับรถสปอร์ตหรู Porsche 911 Carrera 4S โดย บริษัท เอเอเอส ออโตเซอร์วิส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยนำเข้ามาและเปิดตัว 2 รุ่นด้วยกันได้แก่ Porsche 911 Carrera 4S และ รุ่นเปิดประทุน Porsche 911 Carrera 4S Convertible โดย Porsche 911 Carrera 4 S มาพร้อมกับ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Active All Wheel Drive System พร้อมเครื่องยนต์แบบ Boxer ขนาด 3.8 ลิตร 400 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 ภายใน 4.1 วินาที และ 4.3 วินาที สำหรับรุ่นเปิดประทุน โดยทั้งสองรุ่นสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 299 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ PMT (Porsche Traction Management) ที่สนับสนุนการการขับขี่ทุสภาวะถนน สำหรับราคาของเจ้า Porsche 911 Carrera 4S นั้นอยู่ที่ 17,100,000 บาท

รูปภาพอาร์ตๆ Porsche

ช่วงล่าง

  ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัต พร้อมปีกนก ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ ติดตั้งระบบควบคุมช็อกอัพไฟฟ้า PASM (Porsche Active Suspension Management) ที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นระบบนี้จะทำงานด้วยการตรวจจับอาการของตัวรถ ทั้ง แรงเหวี่ยงออกด้านข้าง องศาของพวงมาลัยแรงดันของระบบเบรก แรงบิดเครื่องยนต์ และความเร็วที่ใช้อยู่ จากเซ็นเซอร์รอบคันรถ มาประมวลผลที่สมองกลของระบบในเสี้ยววินาที เพื่อปรับแรงดันของช็อกอัพให้เหมาะสมกับการขับขี่ในตอนนั้นเช่น ปรับให้อยู่ในค่ากลาง เมื่อขับรถอยู่บนทางด่วน และปรับให้ช็อกอัพลดความแข็ง เมื่อใช้ความเร็วต่ำหรือถ้าต้องการจะเปลี่ยนให้ช็อกอัพแข็งหรืออ่อน ก็ทำได้เอง เพียงกดปุ่มรูปช็อกอัพ บนแผงคอนโซลกลาง ถัดจากปุ่ม Sport + อยู่ฝั่งซ้ายมือ ถัดจากคันเกียร์ ลงมา และในรุ่น Carrera มาตรฐานจะมีระบบPASM sports chassis ช่วยลดความสูงใต้ท้องรถลงมา 20 มิลลิเมตร เพิมแรงกดบนช็อกอัพคู่หน้าและคู่หลัง ที่มาพร้อมกับแรงกดบนเพลาหลัง ทำให้ลดแรงกด เหลือ 0 ช่วยให้รถจิกเกาะถนนได้ดีขึ้นไปอีก

    ระบบห้ามล้อ เป็นเบรกดิสก์แบบมีรูระบายความร้อนครบทั้ง 4 ล้อ คาลิเปอร์จานเบรกคู่หน้ามี 6 Port ส่วนจานเบรกคู่หลัง มี 4 Port พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และยังสามารถเลือกสั่งซื้อระบบเบรกเซรามิก PCCB (Porsche Ceramic Composite Brake) คาลิเปอร์ 6 Port น้ำหนักเบากว่าเดิมถึง 50% และแข็งแรงแถมยังลดแรงเสียดทานได้ดีกว่าจานเบรกปกติ เป็นออพชันได้อีกด้วย

   ถึงเวลาเปิดฝากระโปรงกันแล้ว อย่าลืมว่า 911 เป็นรถสปอร์ต ขับเคลื่อนล้อหลัง แถมยังวางเครื่องยนต์ไว้ที่ด้านหลังรถ ดังนั้น อย่าแปลกใจเลย ถ้าจะเปิดฝาขึ้นมาเพื่อวางของ แล้วตกใจว่า ทำไมเจอแต่พัดลมระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ขนาดจิ๋ว 2 ตัวนี้ เพราะ 911 ยุคใหม่ ไม่ต้องการการบำรุงรักษาจากเจ้าของรถมากเหมือนก่อน ภาระที่เหลือยกให้กับศูนย์บริการ อย่างเป็นทางการของ AAS ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือเพียบพร้อม และคอมพิวเตอร์ ต่างๆ จากเยอรมัน ที่จะช่วยในการซ่อมบำรุงได้ดี

     เครื่องยนต์ ของ 911 ใหม่ เป็นแบบ 6 สูบนอน BOXER DOHC 24 วาล์ว รุ่น Carrera มาตรฐานมีความจุอยู่ที่3,436 ซีซี ส่วนรุ่น Carrera S ความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 3,800 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดตรงสู่ห้องเผาไหม้ DFI (Direct Fuel Injection) พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VarioCam ถือเป็นครั้งแรกที่ Porsche ลดขนาด ความจุกระบอกสูบ ในรุ่น Carrera มาตรฐานลงมา ด้วยการลดระยะชัก ซึ่งเป็นจังหวะการเคลื่อนลูกสูบจนสุดระยะของช่วงขึ้นและลงในกระบอกลูกสูบ 4 มิลลิเมตร พร้อมด้วยการลดขนาดความจุลงจาก 3.6 ลิตรให้เหลือแค่ 3.4 ลิตร ในขณะที่รุ่นคาร์เรร่า เอส (Carrera S) ยังคงมีความจุของกระบอกสูบไว้ที่ 3.8 ลิตร เท่าเดิม

Porsche 911 รุ่นเก่าๆ

     เมื่อพูถึงรถยนต์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแรงเป็นตำนานมาอย่างยาวนานเราเชื่อว่าค่ายรถยนต์ Porsche น่าจะเป็นค่ายรถยนต์ที่อยู่ในใจใครหลายๆคน โดยเฉพาะ รุ่น 911 ที่เป็นตำนานสืบทอดมายาวนานและในท้ายที่สุดแล้ว มันก็กลับมาอีกครั้ง

     การครบรอบการก่อตั้งกิจการบริษัท Porsche มากว่า 50 ปี และการฉลองครบรอบ 40 ปี นับตั้งแต่เริ่มเดินสายการผลิตรถยนต์ Porsche 911 วันนี้ก็มาครบบรรจบอีกครั้ง ด้วยการสร้างกระแสรุ่นใหม่ที่เร้วแรงเร้าใจเหมือนที่หลายคนหวังเอาไว้กับ Porsche 911 Turbo และ Turbo S ใหม่ ตอบโจทย์ในความเร้าใจมากกว่าที่เคยเป็นมา

    รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นย่อมหมายถึงการเปลี่ยนทางด้านเรือนร่างและ Porsches 911 turbo ประเดิมด้วยการปรับระยะฐานล้อให้มีความกว้างขึ้น ที่จริงมันกว้างมากกว่า Porsche Carrera 4 ถึง 28 มม. ทั้งยังขยับฐานล้อให้ยาวขึ้นอีก 100 ม.ม. ให้ในการตอบสนองการขับขี่ที่ลงตัวและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

    ขนาดที่กว้างขึ้น ไม่ใช่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปใน Porsche 911 Turbo ใหม่ แต่ยังให้รายละเอียดในเรื่องการออกแบบที่มีความทรงเสน่ห์มากยิ่งขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะจุดขายหลักกับไฟหน้าระบบ LED ที่ให้ความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เมื่อนับว่าไฟท้ายใช้แบบ LED อยู่แล้วตั้งแต่เปิดตัวออกมา สวมทับด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว จากโรงงาน พร้อมชุดกันหน้าและตลอดรอบคันที่ดูดุดันมากยิ่งขึ้น

    เรื่องที่โดดเด่นใน Porsche 911 Turbo นั้นอยู่ที่ระบบจัดการความสามารถในด้านหลักอากาศพลศาสตร์ Porsche active aerodynamics (PAA) โดยจะทำงานเป็น 3 ขั้นตอนใหญ่ตอบโจทย์ต่อการขับขี่ เริ่มจากปรับ ในส่วนของ สปอร์ยเลอร์ทางด้านหน้าหรือ front spoiler ตามสภาวะการขับขี่ รวมถึง ขับเคลื่อนสปอร์ยเลอร์หลัง และปรับตำแหน่ง 3 ระดับ ตามลักษณะการขับขี่และความเร็วที่ใช้

     ปอร์เช่ เฉลิมฉลองให้กับความเป็นตำนานและความเป็นอมตะของรุ่น 911 ที่มีมานานกว่า 50 ปี ด้วยการเผยโฉม 911 รุ่นเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ในงานมหกรรมยานยนต์ International Motor Show(IAA) ที่แฟรงก์เฟิร์ต ในวันที่ 12 กันยายน 2013 โดย 911 รุ่นพิเศษนี้มีพื้นฐานมาจากรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และเป็นรุ่นคูเป้ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์หกสูบเรียงนอน เครื่องยนต์วางหลังและขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบช่วงล่างสปอร์ตแบบ Active sport suspension และตัวรถมีความพิเศษ รุ่นเฉลิมฉลองนี้จะมีตัวรถกว้างกว่า โดยนำตัวรถของรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือคาร์เรร่า 4 (Carrera 4) มาใช้นั่นเอง การผลิตจะมีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 1,963 คันเท่านั้น เป็นตัวเลขของปีที่ 911 ได้นำเสนอให้เป็นที่รู้จักต่อสายตาสาธารณชนนั่นเอง

     ย้อนกลับไปในปี 1963 ปอร์เช่เปิดตัวรุ่นดั้งเดิมของปอร์เช่ 911 ในงานมหกรรมยานยนต์ระดับโลก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 911 ก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยเน้นการพัฒนาในเรื่องของคุณลักษณะและจุดเด่นของความเป็น 911 ที่ต้องเด่นชัดออกมา ผลลัพธ์ที่ได้จากการพัฒนามากว่า 50 ปีคือ รถปอร์เช่จำนวนมากที่ประสบความสำเร็จและสร้างตำนานในสนามแข่งมาแล้วหลายรุ่น และเป็นรถสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จภายใต้แบรนด์ปอร์เช่ สิ่งเหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดสู่รุ่นต่อรุ่น และได้กลายมาเป็นดีเอ็นเอ ของปอร์เช่และสะท้อนออกมาให้เห็นในปอร์เช่ทุกๆ รุ่นอีกด้วย

     911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) รุ่นพิเศษจำนวนจำกัดคันนี้ มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 400 แรงม้า (294 กิโลวัตต์) มีระบบต่างๆ และความโดดเด่นมากมายที่ทำให้ 911 ประสบความสำเร็จ เช่น ระบบช่วงล่าง ปอร์เช่ แอคทีฟ ซัสเพนชั่น เมเนจเม้นท์ (Porsche Active Suspension Management-PASM) ปรับแต่งเป็นพิเศษให้เหมาะสมกับตัวรถที่กว้างขึ้น ช่วยในการเข้าโค้งที่ต้องการความคล่องตัวสูงของ 911 มีระบบท่อไอเสียสปอร์ต(Sportexhaust system) จะส่งเสียงของเครื่องยนต์ออกมาอย่างดุดัน ล้อมีขนาด 20 นิ้วและเป็นลายพิเศษ ?Fuchs? เคยโด่งดังและประสบความสำเร็จจนเป็นตำนานมาแล้ว

     สีของล้อจะพ่นและเคลือบด้วยสีดำจากศูนย์เคลือบสีพิเศษแถบโครเมียมบนช่องดักอากาศด้านหน้าและครีบของตะแกรงห้องเครื่องยนต์รวมไปถึงแผงระหว่างไฟหลังต่างได้รับการตกแต่งเป็นพิเศษเฉพาะเพื่อเน้นให้เห็นถึงความเป็นรุ่นพิเศษจำนวนจำกัดอีก ไฮไลต์ของเทคโนโลยีในรถรุ่นนี้คืออุปกรณ์ไฟ ปอร์เช่ ไดนามิก ไลท์ ซิสเต็ม (Porsche Dynamic Light System - PDLS) ติดตั้งควบคู่มากับระบบไฟหน้าไบซีนอลและมาพร้อมกับไฟช่วยเลี้ยว เพื่อความคล่องตัวอีกด้วย

     911 รุ่นเฉลิมฉลองนี้ สามารถเลือกสีภายนอกเป็นสีพิเศษได้สองสี นั่นคือสีเท้าเข้ม (graphite grey) และสีเทา (geyser grey metallic) หรือจะเลือกสีดำ (black monochrome) ได้ด้วยเช่นกัน รถรุ่นนี้ทุกคันจะประดับด้วยโลโก้ ?911 50? แบบ 3D 2 สีทางด้านฝากระโปรงหลัง และยังติดตั้งลงบนที่พักศีรษะ เป็นการสลักแบบ 3 สี บนแผงหน้าปัดจะมีโลโก้นี้ในรูปแบบ 2 สี กาบบันไดประตูแบบอะลูมิเนียมเพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แผงที่วางแก้วจะได้พบกับตัวเลขของรถแต่ละคันบ่งบอกให้เห็นถึงรุ่นที่มีจำนวนจำกัด